ARV X MERMAID MARITIME

17 SEP 2020

Bangkok, August 17, 2020 – AI and Robotics Ventures Company Limited (ARV), a subsidiary of PTT Exploration and Production Public Company Limited (PTTEP), and Mermaid Subsea Services (Thailand) Ltd (MSST), a subsidiary company of Mermaid Maritime Public Company Limited or Mermaid, has formed a joint venture, “ZeaQuest Company Limited”, in order to develop AI and robotic technologies to provide underwater inspection, repair, and maintenance services to oil & gas and renewable energy sectors in Asia and globally.

ZeaQuest Company Limited has a registered capital of USD 5 million (equivalent to THB 155 million) and a 50-50 ownership ratio in the joint venture between ARV and MSST. The company aims to be an internationally renowned leader in subsea services utilizing AI and Robotics technology.

Dr. Thana Slanvetpan, General Manager of AI and Robotics Ventures Company Limited (ARV), mentioned “ARV specializes in research and development of AI and robotics technologies for petroleum exploration and production and non-E&P industries. This partnership between Mermaid and ARV is a critical milestone in the utilization of highly complex AI and robotics technologies in surveillance, inspection, repair, and maintenance of subsea infrastructure and equipment. These innovative technologies are invented to serve businesses across the globe, through Mermaid’s robust customer base. Moreover, ARV is developing cutting-edge technologies including an Inspection-class Autonomous Underwater Vehicle or “Xplorer”, a Subsea Flowline Control and Repair Robot or “Nautilus”, and software and data analytics technologies utilizing Internet of Things (IoT) which we aim to commercialize by 2021. Therefore, the “ZeaQuest” joint venture will definitely add value to both ARV and Mermaid, as well as the E&P industry, and benefit Thailand’s economy as a whole.”

Chalermchai Mahagitsiri, Chief Executive Officer and Vice Executive Chairman of Mermaid Maritime Public Company Limited or Mermaid said “Having served the offshore service industry for over 30 years with operations spanning from Singapore, Indonesia, Qatar, Saudi Arabia, United Arab Emirates, United Kingdom, etc., Mermaid covers a comprehensive range of subsea solutions including subsea vessels, subsea engineering, remotely operated vehicle (ROV), as well as offshore drilling. With a proven track record and comprehensive services, Mermaid has gained trust from its customers across the globe. What our customers expect from us are cutting-edge technologies and competent personnel. Therefore, the partnership between Mermaid and ARV is a significant strategic move that will uplift Mermaid’s subsea services to be more efficient, by deploying robotics and AI technologies developed by ARV. In the initial phase, ZeaQuest plans to use these technologies in the inspection, repair & maintenance (IRM), infrastructure installation support, and subsea engineering services for national oil and gas corporates in Southeast Asia, and later expand theses services to Middle East and the rest of the world.”

กรุงเทพฯ 17 กันยายน 2563 – บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์  เวนเจอร์ส จำกัด (เออาร์วี) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ได้ร่วมทุนกับ บริษัท เมอร์เมด ซับซี เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด (MSST) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) หรือ เมอร์เมด จัดตั้ง บริษัท ซีเควสต์ จำกัด ขึ้น เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์สำหรับให้บริการงานวิศวกรรมใต้ทะเลในเชิงพาณิชย์ แก่บริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และบริษัทด้านพลังงานทดแทนที่มีการดำเนินงานในทะเล ทั้งในภูมิภาคเอเชียและในภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลก

บริษัท ซีเควสต์ จำกัด (ZeaQuest Co.,Ltd) มีทุนจดทะเบียนเริ่มต้นจำนวน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 155 ล้านบาท และมีสัดส่วนการถือหุ้นระหว่าง เออาร์วี และ เมอร์เมด ซับซี เซอร์วิสเซส เท่ากันที่ ร้อยละ 50 โดยมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำในงานบริการวิศวกรรมใต้ทะเล ที่ใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ในระดับสากล

ดร. ธนา สราญเวทย์พันธุ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ เออาร์วี กล่าวว่า “เออาร์วี มีความเชี่ยวชาญในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีด้านปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ที่ใช้ในการสนับสนุนกิจกรรมการสำรวจ พัฒนา และผลิตปิโตรเลียม รวมไปถึงอุตสาหกรรมและธุรกิจอื่น ๆ นอกเหนือจากด้านพลังงาน ความร่วมมือของทั้งสองบริษัทฯ ในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญที่จะขับเคลื่อนนวัตกรรมและเทคโนโลยีประสิทธิภาพสูงที่ เออาร์วี พัฒนาขึ้น เพื่อให้บริการในการสำรวจ ตรวจสอบ และซ่อมบำรุงโครงสร้างและอุปกรณ์ใต้ทะเล เพื่อกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ทั้งในภูมิภาคและทั่วโลก โดยมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งของเมอร์เมดฯ เป็นแรงสนับสนุน นอกจากนี้ เออาร์วี ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น หุ่นยนต์ใต้น้ำอัตโนมัติไร้สาย หรือ เอ็กซ์พลอเรอร์ (Xplorer) หุ่นยนต์ซ่อมบำรุงท่อใต้น้ำหรือ นอติลุส (Nautilus) รวมทั้งเทคโนโลยีทางด้านปัญญาประดิษฐ์ในการวิเคราะห์ผลตรวจสอบ หรือการใช้ Internet of Things (IoT) ในการสื่อสารและส่งผ่านข้อมูล ซึ่งตั้งเป้าที่จะให้บริการในเชิงพาณิชย์ภายในปี พ.ศ 2564 ดังนั้น บริษัท ซีเควสต์ จำกัด ที่จัดตั้งร่วมกันนี้ จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ เออาร์วี และ เมอร์เมดฯ ตลอดจนอุตสาหกรรมการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมจากเทคโนโลยีเหล่านี้ รวมถึงก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจแก่ประเทศไทยด้วย”

นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) หรือ เมอร์เมด กล่าวว่า “เมอร์เมดฯ ดำเนินธุรกิจในด้านการให้บริการงานวิศวกรรมใต้ทะเล มานานกว่า 30 ปี และมีฐานปฏิบัติการที่กระจายอยู่ในหลายประเทศ อาทิ  สิงคโปร์ อินโดนีเซีย กาตาร์ ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสหราชอาณาจักร เป็นต้น บริการของเมอร์เมดฯ มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรือวิศวกรรมใต้ทะเล อุปกรณ์  ดำน้ำแบบพิเศษ ยานสำรวจใต้ทะเล ROV เรือขุดเจาะนอกชายฝั่ง ฯลฯ เมอร์เมดฯ จึงสามารถให้บริการงานวิศวกรรมใต้ทะเลได้แบบครบวงจร และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามาโดยตลอด สิ่งที่ลูกค้าต้องการจากเมอร์เมดฯ คือ เทคโนโลยีที่ทันสมัยและบุคลากรที่เชี่ยวชาญ ซึ่งการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกันของเมอร์เมดฯ และ เออาร์วี ในครั้งนี้ นับเป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่จะช่วยยกระดับงานบริการงานวิศวกรรมใต้ทะเลของเมอร์เมดฯ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยอาศัยเทคโนโลยีหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ของ เออาร์วี และในระยะเริ่มต้น บริษัท ซีเควสต์ จำกัด วางแผนที่จะนำหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ไปให้บริการงานด้าน สำรวจ ตรวจสอบ ติดตั้ง รื้อถอน และซ่อมบำรุงโครงสร้างหรืออุปกรณ์ใต้ทะเล ฯลฯ แก่บริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก่อน หลังจากนั้นจะขยายการบริการไปสู่ภูมิภาคตะวันออกกลางและทั่วโลกต่อไป”