A trusted partner for AI&Robotics solutions driven by innovations at scale
บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ เออาร์วี (ARV) ร่วมมือกับ กรมทางหลวง
ต่อยอดความสำเร็จจากช่วงปีใหม่ ในการนำเทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับอัตโนมัติ “HORRUS” (ฮอรัส) ในรูปแบบ Drone-in-a box-solution มาใช้ในการตรวจสอบ วิเคราะห์ และเผยแพร่ข้อมูลการจราจรบนทางหลวงทั้งขาเข้าและขาออกสู่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงวันหยุดวันจักรีจนถึงเทศกาลสงกรานต์ ผ่านรูปแบบข้อมูลสารสนเทศ (Infographic) บนเพจเฟซบุ๊กของกรมทางหลวง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางสามารถติดตามสภาพการจราจรได้อย่าง Real Time เพื่อวางแผนการเดินทางในช่วงเวลาดังกล่าว
ดร. ธนา สราญเวทย์พันธุ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ เออาร์วี (ARV) กล่าวว่า “เมื่อช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ที่ผ่านมา เออาร์วี ภายใต้การสนับสนุนของ ‘Bedrock’ (เบดร็อค) ผู้เชี่ยวชาญการให้บริการและวิเคราะห์ฐานข้อมูลขั้นสูงเชิงตำแหน่งและพื้นที่อัจฉริยะ ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลของเราประสานงานร่วมกับกรมทางหลวงนำเทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับอัตโนมัติ “HORRUS” ที่มีจุดเด่นในเรื่องของเทคโนโลยี Location Intelligence Platform และ AI ทำการวิเคราะห์ภาพรวมสภาพการจราจรบนทางหลวงในช่วงขาเข้า-ขาออกสู่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตรวจจับอุบัติเหตุ และประเมินระดับความรุนแรงของอุบัติเหตุที่ส่งผลกระทบต่อการจราจรในเบื้องต้น ก่อนที่ความช่วยเหลือจะเข้าไปถึง เพื่ออำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงสามารถดูแลประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และในเดือนเมษายน 2566 เราได้ต่อยอดการดำเนินการเชิง PoC (Proof of Concept) จากช่วงปีใหม่ มาปรับใช้กับช่วงวันหยุดวันจักรี – เทศกาลสงกรานต์ ซึ่งยังคงร่วมมือกับสำนักบริหารบำรุงทาง กรมทางหลวงเช่นเดิม พร้อมขยายความร่วมมือกับสำนักอำนวยความปลอดภัยกรมทางหลวงในปฏิบัติการล่าสุดโดยมีการเพิ่มรูปแบบการปฏิบัติการของ HORRUS เพื่อเพิ่มวิสัยทัศน์การมองเห็นของเจ้าหน้าที่ให้กว้างกว่าและครอบคลุมกว่าเดิม สามารถตรวจจับเหตุฉุกเฉินได้แม้ในจุดอับสายตาจากกล้องวงจรปิด นอกจากนั้น ยังมีการถ่ายทอดสดสภาพการจราจรลงบนเฟซบุ๊กเพจของกรมทางหลวง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่จริง สามารถดูปริมาณและความหนาแน่นของการจราจรกันแบบ Real Time อีกด้วย”
ด้านคุณพงศกร จุลละโพธิ ผู้อำนวยการสำนักบริหารบำรุงทาง กรมทางหลวง กล่าวว่า “เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงเวลาที่มีการเดินทางอย่างหนาแน่นโดยเฉพาะเส้นทางสู่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้วยวัฒนธรรมของคนไทยที่นิยมเดินทางกลับภูมิลำเนาไปเยี่ยมครอบครัว ทั้งยังเป็นช่วงหยุดยาวที่ผู้คนมักเดินทางท่องเที่ยว ทำให้การจราจรบนทางหลวงในช่วงเวลา 7 – 10 วันนี้แน่นขนัดเป็นพิเศษ เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทั้งในระดับเบาไปจนถึงหนัก โดยข้อมูลจาก ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ระบุว่า ช่วงสงกรานต์ปี 2565 มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุบนทางหลวงสูงถึง 47.34% โดยสาเหตุมาจากการขับรถเร็วและเมาแล้วขับเป็นหลัก
โดยในครั้งนี้ ความร่วมมือระหว่างกรมทางหลวงและเออาร์วีได้ต่อยอดทางเทคโนโลยีไปอีกขั้น ที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลพื้นที่ที่เป็นจุดอับสายตาจากกล้องวงจรปิด ส่งผลให้สามารถขยายวิสัยทัศน์เพื่อดูแลประชาชนได้กว้างขวางกว่าเดิม ทั้งยังได้รับการตอบรับที่ดีจากการที่เราจัดทำระบบ Live Streaming ในเพจเฟซบุ๊กของกรมทางหลวง ที่สามารถแจ้งข้อมูลจราจรแบบReal Time โดยใช้เทคโนโลยี Artificial Intelligence (AI) และ Machine Learning (ML) ที่สามารถตรวจจับพร้อมประมวลผลภาพการจราจรทั้งรูปแบบของรถ การเคลื่อนไหวของมนุษย์ การเคลื่อนตัวของการจราจรทั้งระบบ ทั้งยังมีข้อมูลหัวแถวและหางแถวของขบวนรถติดไว้สำหรับแจ้งประชาชนในรูปแบบข้อมูลสารสนเทศ (Infographic) ในการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้เส้นทางสามารถวางแผนการเดินทางล่วงหน้าผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ของกรมทางหลวง และยังสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเพราะสามารถมองเห็นภาพการจราจรได้ชัดเจนมากกว่าการปฏิบัติงานผ่านแพลตฟอร์มเดิมที่เห็นได้เพียงรูปแบบสองมิติเท่านั้น โดยทางเราคาดหวังว่าจะได้ร่วมมือกับหน่วยงานเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเช่นนี้อีกในโอกาสถัดไป และคาดหวังให้ทางเออาร์วี รวมถึงเบดร็อค พัฒนานวัตกรรมให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ในการอำนวยความสะดวกและให้ความช่วยเหลือประชาชนในกรณีอื่น ๆ ได้ครอบคลุมในหลากหลายด้านมากยิ่งขึ้น”
คุณภาคภูมิ เกรียงโกมล หัวหน้าทีมโรโบติกส์ บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ เออาร์วี (ARV) เผยรายละเอียดการต่อยอดความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “การนำ HORRUS ลงไปปฏิบัติการสนับสนุนการทำงานให้แก่กรมทางหลวงในครั้งนี้ แม้จะยังดำเนินการตามเส้นทางเดิมคือบนถนนพหลโยธินขาเข้า กม.55+700, ถนนพหลโยธินขาออก กม.55+700 และถนนกาญจนาภิเษก (ตะวันออก) ตัดถนนพหลโยธิน แต่ได้เพิ่มพื้นที่ดำเนินการให้เข้าไปลึกถึงในส่วนของทางต่างระดับรวมถึงจุดกลับรถบางแห่งที่อับสายตาจากกล้องวงจรปิด โดยจะออกปฏิบัติการวันละ 5 รอบ ระหว่างเวลา 09:00 – 17:00 น. โดยในครั้งนี้ได้มีการนำรถกระบะออกปฏิบัติการร่วมด้วย 1 คัน เพื่อเก็บข้อมูลรูปภาพ วิดีโอ ฯลฯ สำหรับให้เจ้าหน้าที่นำไปวิเคราะห์กลยุทธ์ในการบริหารจัดการจราจรได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
“ปฏิบัติการรอบนี้คือ PoC (Proof of Concept) ครั้งที่สองในการสนับสนุนการบริหารจัดการการจราจรของ HORRUS โดยผลลัพธ์ที่ได้นับเป็นการแสดงศักยภาพของเออาร์วีว่าสามารถพัฒนาเทคโนโลยีด้าน Robotics & AI เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในการยกระดับคุณภาพชีวิตผู้คนได้หลากหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็น ภาครัฐ ภาคเอกชน หรือภาคประชาชน ให้สมบูรณ์แบบมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเรายินดีเปิดรับความร่วมมือและการสนับสนุนจากผู้ที่มีความสนใจด้านการนำเทคโนโลยีโดรนไปพัฒนาธุรกิจ อุตสาหกรรม โดยเฉพาะด้านสาธารณะประโยชน์ สำหรับผู้ที่สนใจเทคโนโลยี HORRUS สามารถติดต่อขอรับรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อีเมล Sales@arv231025.onebytespace.com หรือ โทร 02-078-4000 และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์เออาร์วี www.arv.co.th” คุณภาคภูมิ กล่าวสรุป